ต้นชมพู่มะเหมี่ยวข้างบ้าน
ต้นชมพู่มะเหมี่ยวข้างบ้าน #มะเหมี่ยว จากไปหลังจากเพิ่งเสียแมวไปสองตัวก่อนหน้าคือฝันดีและลุงลำดวน เป็นช่วงเวลาเศร้าและเสียใจหนักหน่อยสำหรับพ่อทองมี หลังจากหายไปหลายวัน ช่วงนี้ก็จะพยายามกลับมาโพสต์ มาเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปก่อนครับ หลังจากมะเหมี่ยวจากไป นอกจากพ่อทองมีแล้ว แมวในบ้านก็พากันซึมตามกัน จากเคยมีผู้สร้างสีสันและกิจกรรมความสนุกในบ้าน พอเธอไม่อยู่ บ้านก็เงียบไปเยอะครับ แมวที่ดูซึมกว่าใครก็คือแม่ #มณี เนื่องจากมะเหมี่ยวเป็นลูกที่ขี้อ้อนที่สุด มะเหมี่ยวจะคอยเอาใจแม่ นอนกอดกับแม่ทุกคืน (ยกเว้นวันไหนทำผิดและโดนบ่นเยอะก็มานอนกอดกับพ่อทองมีเพื่อเอาใจ) ชวนแม่เล่น ขโมยแม่กินนม มาตั้งแต่เด็กจนโต ต่างกับพี่น้องที่พอเริ่มโตก็ห่างกันไปบ้าง แต่มะเหมี่ยวกับแม่มณีนั้นจะสนิทกันมาก แม่มณีอาจจะเอ็นดูมะเหมี่ยวมากกว่าใครก็ได้เพราะเธอเกิดมาไม่เหมือนพี่น้องเลย ความรู้สึกคงเหมือนพ่อทองมีตอนมะเหมี่ยวเกิดครับ เธอตัวออกสีเทา ๆ ดำ ๆ ตัวเดียว กลัวเธอจะขี้เหร่ กลัวใครจะไม่รัก วันรุ่งขึ้นหลังจากมะเหมี่ยวจากไป พ่อทองมีนำร่างเธอไปฝังไว้ข้างบ้านบริเวณชายคา ตรงริมคลอง ติดกับกรงซาฟารี เพื่อให้อยู่ใกล้ ๆ กับครอบครัวพี่น้องของเธอ จากนั้นก็นำปลอกบ่อปูนมาตั้ง แล้วใส่ดินแล้วนำต้น “ชมพู่มะเหมี่ยว” มาปลูกไว้ นับแต่วันแรก ทุกวันพอได้ออกจากบ้าน แม่มณีก็จะเดินมานอนข้าง ๆ หลุมศพของลูกเธอนั่นเอง เธอมานอนซึมอยู่อย่างนั้นทุกวันจนถึงเวลา พ่อทองมีต้องอุ้มเข้าบ้าน นอกจากแม่มณีมานอนเฝ้าทุกวัน แก๊งลูกศิษย์ก็ทยอยมามานอนเล่นบริเวณนี้ทุกวัน พ่อทองมีก็เลยตัดสินใจจะทำบริเวณนี้ให้เป็นสวนหย่อม มีเวลาว่างจะตกแต่งไปเรื่อย ๆ จะปลูกดอกไม้สวย ๆ แมวทั้งหลายจะได้มีมุมพักผ่อนเพิ่ม แม่ณีคิดถึงลูกสาวจะได้มานอนเล่นได้อย่างสบายใจ และตัวพ่อทองมีเองก็จะมานั่งคุยกับต้นชมพู่มะเหมี่ยวเหมือนทุกวันอยู่แล้วครับ ความเศร้าโศกเสียใจสำหรับบางเรื่องมันยากนะครับที่จะทำให้จางหายไป นอกจากย้อนหวนคืนนำสิ่งที่หายไปกลับคืนมา แต่เวลาก็มักจะช่วยเยียวยายให้ทุเลาเบาบางลงไปได้ครับดูโพสต์ในเฟซบุ๊ก
ไม่มีความคิดเห็น